1. ตั้งรหัสบัญชี
สินค้าคงเหลือต้นงวดและรหัสบัญชีสินค้าคงเหลือปลายงวด
ที่กลุ่มค่าใช้จ่ายให้เท่ากับรหัสบัญชีสินค้าคงเหลือที่มีในกลุ่ม 1 ซึ่งตามตัวอย่างนี้จะขอใช้เป็นรหัสบัญชีกลุ่ม
7 เช่น ในบริษัททำการมีรหัสบัญชี
100100 : วัตถุดิบคงเหลือ
100200 : งานระหว่างทำคงเหลือ
100300 : สินค้าสำเร็จรูปคงเหลือ
ดังนั้น ต้องตั้งรหัสบัญชีสินค้าคงเหลือ กลุ่ม7 ดังนี้
710100 :
วัตถุดิบคงเหลือต้นงวด (B/F)
710200 : งานระหว่างทำคงเหลือต้นงวด (B/F)
710300 : สินค้าสำเร็จรูปต้นงวด (B/F)
720100 :
วัตถุดิบคงเหลือปลายงวด (C/F)
720200
: งานระหว่างทำคงเหลือปลายงวด (C/F)
720300: สินค้าสำเร็จรูปปลายงวด (C/F)
2. จากนั้นให้นำยอดยกมาของสินค้าคงเหลือที่ได้บันทึกไว้แล้วในกลุ่ม
1 (สินค้าคงเหลือ)
บันทึกเป็นยอดยกมาของกลุ่ม 7 ที่ได้ตั้งขึ้นมาใหม่
ในหัวข้อยอดยกมาระบบ GL โดยรหัสบัญชีสินค้า (B/F) ให้บันทึกค่าบวก ส่วนรหัสสินค้า (C/F) ให้บันทึกค่าลบ ตัวอย่าง : ในแต่ละรหัสบัญชีกลุ่ม
1 มียอดยกมาดังนี้
100100 : วัตถุดิบคงเหลือ 40,000.-
100200 : งานระหว่างทำคงเหลือ 50,000.-
100300 : สินค้าสำเร็จรูปคงเหลือ 70,000.-
ให้ใส่ยอดยกมาของสินค้าคงเหลือที่กลุ่ม 7
ดังนี้
710100 :
วัตถุดิบคงเหลือต้นงวด(B/F) 40,000.-
710200 :
งานระหว่างทำคงเหลือต้นงวด(B/F) 50,000.-
710300 :
สินค้าสำเร็จรูปต้นงวด(B/F) 70,000.-
720100 :
วัตถุดิบคงเหลือปลายงวด(C/F) (40,000.-)
720200 :
งานระหว่างทำคงเหลือปลายงวด(C/F) (50,000.-)
720300 :
สินค้าสำเร็จรูปปลายงวด(C/F) (70,000.-)
3. เมื่อกำหนดรหัสบัญชีเรียบร้อยแล้ว
ให้นำรหัสบัญชีกลุ่ม 7 (B/F และC/F) ไปใส่ในปุ่ม A/C ของหัวข้อการตั้งรหัสสินค้า
โดยในบรรทัดต้นทุน Periodic Dr. ให้ใส่รหัสบัญชีสินค้า B/F และ บรรทัดต้นทุน Periodic Cr. ให้ใส่รหัสบัญชีสินค้า C/F เพื่อให้โปรแกรมคำนวณต้นทุนสินค้าคงเหลือปลายงวดของแต่ละเดือนให้โดยอัตโนมัติ
แต่ในการกำหนดรหัสบัญชีให้กำหนดให้ถูกประเภทของรหัสสินค้า เช่น
รหัสสินค้าประเภทวัตถุดิบ ในบรรทัดต้นทุน Periodic Dr.
จะต้องเป็นรหัสบัญชี 710100 : วัตถุดิบคงเหลือต้นงวด(B/F)
ส่วนบรรทัดต้นทุน Periodic Cr. เป็นรหัสบัญชี 720100
: วัตถุดิบคงเหลือปลายงวด (C/F)
4. ก่อนที่จะทำการส่ง Link
ต้นทุนปลายงวดสินค้า
ต้องทำการกลับรายการสินค้าคงเหลือของเดือนที่แล้วก่อน เช่น บันทึกยอดยกมาวันที่ 01/01/2562 ที่ยอดยกมาของ GL
และ ในวันที่ 30/01/2562
ต้องกลับรายการรหัสบัญชีสินค้าคงเหลือนั้น
โดยให้บันทึกเป็นใบสำคัญปรับปรุงดังนี้ ณ 30/01/2562
720100 : วัตถุดิบคงเหลือปลายงวด(C/F) 40,000.-
720200 : งานระหว่างทำคงเหลือปลายงวด(C/F) 50,000.-
720300 : สินค้าสำเร็จรูปปลายงวด(C/F) 70,000.-
710100 : วัตถุดิบคงเหลือต้นงวด(B/F) (40,000.-)
710200 : งานระหว่างทำคงเหลือต้นงวด(B/F) (50,000.-)
710300 : สินค้าสำเร็จรูปต้นงวด(B/F) (70,000.-)
5. เมื่อตรวจเช็ครายการใบสำคัญที่เบิกออกหรือขายในระบบ MI เรียบร้อยแล้ว ให้ทำการส่ง Link ต้นทุนสินค้าคงเหลือ โดยให้เข้าที่หัวข้อ “ส่งผ่านข้อมูลจากระบบ
MI ไป GL” แล้วคลิกที่ปุ่ม “Costing”
โปรแกรมจะให้เลือกเดือนที่ต้องการคำนวณ จากนั้น โปรแกรมจะส่ง Link ต้นทุนสินค้าคงเหลือปลายงวดของเดือนนั้นไปที่ระบบบัญชีให้โดยอัตโนมัติ
เช่น ณ 31/01/62 โปรแกรมตรวจนับวัตถุดิบได้
52,000.- งานระหว่างทำ 48,000.-
และสินค้าสำเร็จรูป 65,000.- โดยโปรแกรมจะบันทึกบัญชีดังนี้
ณ 31/01/2562
710100 : วัตถุดิบคงเหลือต้นงวด(B/F) 52,000.-
710200 : งานระหว่างทำคงเหลือต้นงวด(B/F) 48,000.-
710300 : สินค้าสำเร็จรูปต้นงวด(B/F) 65,000.-
720100 : วัตถุดิบคงเหลือปลายงวด(C/F) (52,000.-)
720200 : งานระหว่างทำคงเหลือปลายงวด(C/F) (48,000.-)
720300 : สินค้าสำเร็จรูปปลายงวด(C/F) (65,000.-)
ดังนั้น จะมีต้นทุนสินค้าคงเหลือ ณ 31/01/2562 โดยอัตโนมัติที่ระบบบัญชี
6. เมื่อถึงเดือนที่ 2
ให้กลับรายการที่ส่ง Link Costing ของเดือน 1 (ตามข้อ 5) เพื่อล้างบัญชีต้นทุนปลายงวดของเดือน 1
โดยให้เข้าหัวข้อแสดงรายการใบสำคัญเดือน 1 ให้
Cursor อยู่ที่ใบสำคัญใบนั้น แล้วกดปุ่ม Shift+F7 : Auto Reverse โปรแกรมจะกลับรายการให้โดยอัตโนมัติ ใส่วันที่เป็นวันที่ 27/02/62 (วันที่ก่อนสิ้นเดือนนั้น) จากนั้นจึงส่ง Link
ต้นทุนคงเหลือของเดือน 2 ได้
สรุป : ก่อนที่จะส่ง Link
Costing ของแต่ละเดือนได้ต้องกลับรายการบัญชี Costing ของเดือนก่อนหน้านี้ทุกครั้ง ในงบดุลและงบกำไรขาดทุนจึงจะแสดงค่าถูกต้อง
ประเภทงบ |
บรรทัดข้อความ |
สูตร |
งบแสดงฐานะการเงิน |
สินค้าคงเหลือปลายงวด |
ใช้ F แล้วตามด้วยรหัสบัญชีสินค้าคงเหลือ
B/F ของกลุ่ม 7
เช่น F710100+F710200+F710300 |
กำไร (ขาดทุน) สะสม |
|
|
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ |
|
|
งบกำไรขาดทุน |
สินค้าคงเหลือต้นงวด |
ใช้ B
แล้วตามด้วยรหัสบัญชีสินค้าคงเหลือต้นงวด B/F ของกลุ่ม 7 เช่นB710100+B710200+B710300 |
สินค้าคงเหลือปลายงวด |
ใช้ F
แล้วตามด้วยรหัสบัญชีสินค้าคงเหลือปลายงวด C/F ของกลุ่ม 7 เช่น F720100+F720200+F720300 |
8. เมื่อสิ้นปีการบัญชี มีการตรวจสอบงบการเงินเรียบร้อยแล้ว และต้องการปิดบัญชีให้เข้าที่หัวข้อ
“ทำการคำนวณยกยอดไป” เลือก “ปิดงวดบัญชีแยกประเภท” โปรแกรมจะทำการโอนปิดบัญชียอดเงินในกลุ่มรายได้/ค่าใช้จ่ายเข้าบัญชีกำไร
(ขาดทุน) สุทธิ แล้วโอนจากบัญชีกำไร (ขาดทุน) สุทธิเข้าบัญชีกำไร (ขาดทุน) สะสม
รวมถึงการโอนสินค้าคงเหลือปลายงวด ณ 31/12/2562 เข้ารหัสบัญชีสินค้าคงเหลือกลุ่ม 1
ให้โดยอัตโนมัติ ซึ่งจะต้อง Link
Costing เดือน 12 มาก่อน
แล้วทำการผูกรหัสบัญชีว่าต้องการโอนปิดรหัสบัญชีสินค้าคงเหลือ (กลุ่ม7)
เป็นรหัสบัญชีสินค้าคงเหลือ (กลุ่ม1) รหัสใดบ้าง
9. หลังจากทำการปิดบัญชีเรียบร้อยแล้ว
ถ้าเข้าไปดูที่หัวข้อยอดยกมาของระบบบัญชีแยกประเภท
จะเห็นว่าต้นทุนสินค้าคงเหลือปลายงวดที่เคยอยู่กลุ่ม 7 จะไปแสดงที่กลุ่ม 1 แทน
ให้นำยอดยกมานั้นมาบันทึกเป็นยอดยกมาของรหัสบัญชีสินค้าคงเหลือ B/F และC/F ในช่องปีการบัญชีที่ 2 เหมือนขั้นตอนในหัวข้อ
2 จากนั้นขั้นตอนในการทำงานจะเหมือนเดิม (ตั้งแต่ 2-8)
ซึ่งจะสามารถเรียกดูงบเปรียบเทียบปีการบัญชีปัจจุบันกับปีก่อน
หรือเรียกดูเฉพาะปีก่อนได้
ประเภทงบ |
บรรทัดข้อความ |
สูตร |
งบแสดงฐานะการเงิน |
สินค้าคงเหลือปลายงวด |
ใช้ +C
แล้วตามด้วยรหัสบัญชีคุมสินค้าของกลุ่ม 1 |
กำไร (ขาดทุน)สะสม |
ใช้ -C
แล้วตามด้วยรหัสบัญชีกำไร (ขาดทุน) สะสม |
|
กำไร
(ขาดทุน)สุทธิ |
ใช้ -C
แล้วตามด้วยรหัสบัญชีกำไร (ขาดทุน) สุทธิ |
|
งบกำไรขาดทุน |
ซื้อสินค้า |
ใช้ +D
แล้วตามด้วยรหัสบัญชีคุมสินค้ากลุ่ม 1 |
สินค้าคงเหลือต้นงวด |
ใช้ +B
แล้วตามด้วยรหัสบัญชีคุมสินค้ากลุ่ม 1 |
|
สินค้าคงเหลือปลายงวด |
ใช้ +F
แล้วตามด้วยรหัสบัญชีคุมสินค้ากลุ่ม 1 |
1. คลิกที่เมนู “ข้อมูล” เลือกหัวข้อ “คำนวณยกยอด”
แล้วเลือก “ยกยอดสินค้าคงคลัง”